ระวัง! กระดาษที่คุณใช้ทุกวันอาจเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ

ระวัง! กระดาษที่คุณใช้ทุกวันอาจเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ

ระวังกระดาษที่คุณใช้ทุกวัน! อาจมีสารเคมีและฝุ่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากกระดาษ พร้อมเคล็ดลับเลือกใช้ที่ปลอดภัย

กระดาษเป็นสิ่งที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสมุดเรียน หนังสือพิมพ์ ใบเสร็จ หรือแม้แต่กระดาษชำระ หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นแค่ของใช้ธรรมดาที่ไม่มีอันตรายอะไร แต่คุณอาจไม่รู้ว่ากระดาษบางชนิดสามารถแฝงภัยเงียบที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ ทั้งสารเคมีที่ตกค้าง ฝุ่นกระดาษ และหมึกพิมพ์ที่เราอาจสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า กระดาษที่ใช้ทุกวันมีอันตรายอะไรบ้าง และเราจะหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงจากสารเหล่านี้ได้อย่างไร

สารเคมีในกระดาษที่อาจเป็นอันตราย

1. สารฟอกขาวและไดออกซิน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมกระดาษส่วนใหญ่ถึงขาวสะอาด? คำตอบคือ กระดาษมักผ่านการฟอกขาวด้วยสารคลอรีน กระบวนการนี้สามารถก่อให้เกิดไดออกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจสะสมในร่างกายและส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและฮอร์โมน หากร่างกายได้รับในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคตับ

2. BPA และสารเคมีเลียนแบบฮอร์โมน

ใบเสร็จรับเงินที่คุณได้รับจากร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้ามักพิมพ์ด้วยกระดาษความร้อน ซึ่งมีสาร Bisphenol A (BPA) หรือสารทดแทนอย่าง BPS ซึ่งสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย BPA เป็นสารที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งอาจรบกวนสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย งานวิจัยบางชิ้นยังเชื่อมโยง BPA กับความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และปัญหาภาวะมีบุตรยาก

3. หมึกพิมพ์และโลหะหนัก

กระดาษหนังสือพิมพ์ และกระดาษบรรจุภัณฑ์บางชนิด อาจมีหมึกพิมพ์ที่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม หากสัมผัสหรือเผลอกลืนเข้าไป (เช่น ห่ออาหารด้วยกระดาษที่มีหมึกพิมพ์) อาจส่งผลต่อระบบประสาท และหากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อไตและสมอง

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงพลาสติก แต่ต้องใส่ใจกับวัสดุที่ปลอดภัยจริงๆ ด้วย อ่านแนวทางการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยเพิ่มเติมที่ Zero Waste Packaging กับสุขภาพ เทรนด์ใหม่ที่คนยุคนี้ต้องรู้

โครงสร้างระดับจุลทรรศน์ของกระดาษที่มีเชื้อแบคทีเรียสะสม พร้อมนักวิทยาศาสตร์กำลังวิเคราะห์ผลกระทบของสารปนเปื้อนในกระดาษต่อสุขภาพ ด้วยกล้องจุลทรรศน์ขั้นสูง

อันตรายจากฝุ่นกระดาษและอนุภาคขนาดเล็ก

1. ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ

กระดาษที่เก่า หรือถูกฉีกขาดบ่อยๆ อาจก่อให้เกิดฝุ่นกระดาษที่มองไม่เห็น หากสูดดมเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในโพรงจมูกและปอด คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดอาจมีอาการแย่ลงจากการสูดดมฝุ่นกระดาษ

2. อนุภาคขนาดเล็กที่สะสมในร่างกาย

บางครั้งเราคิดว่าฝุ่นกระดาษเป็นเพียงเศษเล็กๆ ที่ไม่มีอันตราย แต่ความจริงแล้ว อนุภาคเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศสามารถเข้าสู่ร่างกายและสะสมในปอดได้ แม้ว่าผลกระทบอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่ในระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และปัญหาสุขภาพอื่นๆ

กระดาษประเภทไหนที่ควรระวัง?

แม้ว่าเราจะใช้กระดาษทุกวัน แต่รู้ไหมว่ากระดาษบางชนิดอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายแฝงอยู่? ไม่ใช่กระดาษทุกประเภทที่ปลอดภัยสำหรับการสัมผัสหรือใช้งานเป็นเวลานาน เรามาดูกันว่ากระดาษชนิดไหนที่ควรระวังและเหตุผลที่เราต้องหลีกเลี่ยง

1. กระดาษที่ผ่านกระบวนการฟอกขาว (Bleached Paper)

ทำไมต้องระวัง?

กระดาษสีขาวที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสมุดเรียน กระดาษถ่ายเอกสาร หรือกระดาษชำระ ส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการฟอกขาวด้วยสารเคมี โดยเฉพาะสารคลอรีน กระบวนการนี้อาจทำให้เกิดสารไดออกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถสะสมในร่างกายได้

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • ไดออกซินอาจรบกวนระบบภูมิคุ้มกันและระบบสืบพันธุ์
  • การสัมผัสสารเหล่านี้ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
  • กระดาษชำระที่มีสารฟอกขาว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง

วิธีหลีกเลี่ยง

  • เลือกใช้กระดาษที่ระบุว่า “ปราศจากคลอรีน” (Chlorine-Free หรือ PCF – Processed Chlorine Free)
  • ใช้กระดาษรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองว่าปลอดสารพิษ

2. กระดาษรีไซเคิลที่ไม่ได้มาตรฐาน

ทำไมต้องระวัง?

แม้ว่าการใช้กระดาษรีไซเคิลจะช่วยลดขยะและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่หากกระบวนการรีไซเคิลไม่ได้มาตรฐาน กระดาษอาจยังคงมีสารเคมีตกค้างจากหมึกพิมพ์ โลหะหนัก หรือกาวที่ใช้ในการยึดติด

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • หมึกพิมพ์เก่าอาจมี สารตะกั่วและแคดเมียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบประสาท
  • กระดาษรีไซเคิลที่ไม่ได้ผ่านการกรองสารพิษอย่างดี อาจมีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจ
  • บางชนิดอาจปนเปื้อน แบคทีเรียและเชื้อรา หากเก็บรักษาในที่อับชื้น

วิธีหลีกเลี่ยง

  • เลือกกระดาษรีไซเคิลที่ได้รับมาตรฐาน เช่น FSC Certified (Forest Stewardship Council)
  • หลีกเลี่ยงกระดาษรีไซเคิลที่มีกลิ่นฉุนหรือมีหมึกพิมพ์หลุดติดมือ

บางครั้งผลิตภัณฑ์ที่ดูเหมือนปลอดภัยอาจไม่ได้มาตรฐานจริงๆ ดังนั้น การอ่านฉลากสินค้าอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของฉลากปลอม

3. กระดาษความร้อน (Thermal Paper) เช่น ใบเสร็จรับเงิน

ทำไมต้องระวัง?

ใบเสร็จรับเงินที่พิมพ์ออกมาจากเครื่องคิดเงินมักใช้กระดาษความร้อน ซึ่งเคลือบด้วยสารเคมีที่เปลี่ยนสีเมื่อได้รับความร้อน สารที่ใช้เคลือบกระดาษชนิดนี้มักเป็น BPA (Bisphenol A) หรือ BPS (Bisphenol S) ซึ่งเป็นสารที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนัง

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • BPA สามารถเลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจน และอาจส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมน
  • งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการได้รับ BPA มากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงของ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะมีบุตรยาก
  • สารนี้สามารถซึมเข้าสู่ร่างกายง่ายขึ้นเมื่อมือเปียกหรือมีเหงื่อ

วิธีหลีกเลี่ยง

  • หลีกเลี่ยงการจับใบเสร็จโดยตรง (หรือจับให้น้อยที่สุด)
  • ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสใบเสร็จรับเงิน
  • ใช้แอปพลิเคชันบันทึกใบเสร็จแทนการรับใบเสร็จแบบกระดาษ

4. กระดาษหนังสือพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ที่พิมพ์หมึกเยอะ

ทำไมต้องระวัง?

หมึกพิมพ์ที่ใช้ในหนังสือพิมพ์และบรรจุภัณฑ์บางชนิดอาจมี สารระเหยและโลหะหนัก ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากสัมผัสหรือปนเปื้อนในอาหาร

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • สารตะกั่วในหมึกพิมพ์อาจสะสมในร่างกายและส่งผลต่อระบบประสาท
  • หมึกพิมพ์อาจมีสาร VOCs (Volatile Organic Compounds) ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ
  • บางครั้งหนังสือพิมพ์ถูกใช้ห่ออาหาร ซึ่งอาจทำให้หมึกพิมพ์ละลายและปนเปื้อนในอาหาร

วิธีหลีกเลี่ยง

  • หลีกเลี่ยงการใช้หนังสือพิมพ์ห่ออาหาร
  • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยและผ่านมาตรฐานด้านอาหาร

5. กระดาษเคลือบสารกันน้ำหรือกันมัน

ทำไมต้องระวัง?

กระดาษที่ใช้สำหรับห่ออาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น กล่องพิซซ่า ถุงมันฝรั่งทอด หรือถาดรองอาหาร มักถูกเคลือบด้วยสาร PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันน้ำและน้ำมันซึมผ่าน

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • PFAS เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้ง่าย และอาจสะสมในเลือด
  • งานวิจัยบางชิ้นพบว่าสารนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และส่งผลต่อระบบฮอร์โมน
  • การใช้กระดาษเคลือบสารเหล่านี้กับอาหารร้อน อาจทำให้สารเคมีซึมเข้าสู่อาหารได้ง่ายขึ้น

วิธีหลีกเลี่ยง

  • หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษเคลือบสารกันน้ำสำหรับอาหารร้อน
  • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแทน เช่น กระดาษไขที่ปลอดสารเคมี

แม้ว่ากระดาษบรรจุภัณฑ์บางชนิดอาจมีสารเคลือบที่เป็นอันตราย แต่ในปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Active Packaging ซึ่งช่วยลดการปนเปื้อนสารเคมีและยืดอายุอาหารได้

ผู้บริโภคกำลังเลือกใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษที่ได้รับการรับรอง Eco-certified และ BPA-free ในซูเปอร์มาร์เก็ต เทียบกับกระดาษทั่วไปที่อาจมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงจากกระดาษที่อาจเป็นอันตราย

ถึงแม้ว่ากระดาษจะเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวันและดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่เมื่อรู้ว่ามันอาจมีสารเคมีและฝุ่นที่เป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ ก็ถึงเวลาที่เราต้องมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน เพื่อให้ปลอดภัยขึ้น บทความนี้ไม่ได้บอกให้คุณเลิกใช้กระดาษทั้งหมด แต่จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและใช้งานกระดาษได้อย่างปลอดภัยขึ้น

1. เลือกใช้กระดาษที่ปลอดภัยกว่า

การเลือกใช้กระดาษที่มีการผลิตที่ปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้มากขึ้น

เลือกกระดาษที่ระบุว่า “ปราศจากคลอรีน” (Chlorine-Free) หรือ “BPA-Free”

  • กระดาษที่ผ่านการฟอกขาวด้วยคลอรีนมีโอกาสปนเปื้อนไดออกซิน ซึ่งอาจสะสมในร่างกาย
  • ใบเสร็จรับเงินจากกระดาษความร้อนมักมีสาร BPA หากหลีกเลี่ยงได้ ควรใช้ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์แทน

กระดาษรีไซเคิลต้องเลือกที่ได้มาตรฐาน

  • แม้กระดาษรีไซเคิลจะช่วยลดขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม แต่หากไม่ได้มาตรฐาน อาจมีสารตกค้างจากหมึกพิมพ์และโลหะหนัก
  • มองหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัย เช่น ฉลาก FSC (Forest Stewardship Council)

ใช้กระดาษจากวัสดุธรรมชาติ

  • กระดาษที่ทำจากเยื่อไม้ไผ่ หรือกระดาษที่ไม่ได้ผ่านการฟอกขาวมากนัก มักมีสารเคมีน้อยกว่ากระดาษทั่วไป

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกระดาษที่มีสารเคมีตกค้างโดยตรง

กระดาษบางประเภท เช่น ใบเสร็จรับเงิน หนังสือพิมพ์ หรือบรรจุภัณฑ์ที่มีหมึกพิมพ์ อาจมีสารเคมีที่ซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

ระวังการจับใบเสร็จรับเงิน

  • ถ้าต้องถือใบเสร็จรับเงิน ควรจับบริเวณที่ไม่มีหมึกพิมพ์ หรือใช้ถุงมือบางๆ หากต้องจัดการใบเสร็จเป็นจำนวนมาก
  • หากต้องเก็บใบเสร็จไว้ ควรเก็บในซองพลาสติกหรือถุงซิปล็อกแทนการใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

ล้างมือหลังสัมผัสกระดาษที่อาจมีสารเคมี

  • หลังจากจับใบเสร็จ หนังสือพิมพ์ หรือเอกสารที่อาจมีหมึกพิมพ์ ควรล้างมือด้วยสบู่เพื่อกำจัดสารตกค้าง

อย่าใช้มือที่สัมผัสใบเสร็จไปหยิบอาหาร

  • สาร BPA สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังและปากได้ง่าย ถ้าต้องหยิบอาหารหรือขนม ก็ควรล้างมือก่อน

3. ลดการใช้กระดาษที่ไม่จำเป็น

ลดการใช้กระดาษไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ใช้เอกสารดิจิทัลแทนกระดาษ

  • แทนที่จะพิมพ์เอกสารหรือใบจดงาน ลองใช้ไฟล์ PDF หรือบันทึกบนแอปพลิเคชันแทน
  • สถานที่เรียนหรือสำนักงานหลายแห่งเริ่มใช้เอกสารดิจิทัลแล้ว เช่น Google Docs , Notion หรือ OneNote

ลดการใช้กระดาษชำระที่ฟอกขาว

  • กระดาษชำระที่ผ่านกระบวนการฟอกขาวมักมีสารเคมีที่อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ควรเลือกแบบที่เป็นธรรมชาติ หรือไม่มีการฟอกขาว

ใช้สมุดโน้ตและกระดาษอย่างคุ้มค่า

  • หากต้องใช้กระดาษ ควรใช้ทั้งสองหน้า หรือเลือกสมุดที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล

4. ป้องกันฝุ่นกระดาษและอนุภาคขนาดเล็ก

จัดเก็บเอกสารและสมุดให้เป็นระเบียบ

  • เอกสารหรือสมุดที่เก่ามาก อาจมีฝุ่นกระดาษสะสม ควรเก็บไว้ในตู้ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการกระจายของฝุ่น

หลีกเลี่ยงการฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ โดยไม่จำเป็น

  • การฉีกกระดาษอาจทำให้เกิดฝุ่นละอองที่เล็กจนมองไม่เห็น และอาจทำให้เราสูดดมโดยไม่รู้ตัว

ทำความสะอาดโต๊ะเรียนและที่เก็บกระดาษเป็นประจำ

  • โต๊ะเรียนหรือโต๊ะทำงานที่มีเอกสารเยอะ อาจสะสมฝุ่นกระดาษได้ง่าย การเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำช่วยลดฝุ่นที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

5. สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยวิธีที่ปลอดภัย ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเรา แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ย่อยสลายได้ง่าย

  • กระดาษที่ทำจากเยื่อไม้ไผ่ หรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้เร็ว จะช่วยลดขยะและสารเคมีที่ตกค้าง

สนับสนุนกระดาษที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

  • กระดาษที่ได้รับฉลาก FSC (Forest Stewardship Council) หมายความว่าผลิตโดยไม่ทำลายป่าไม้และผ่านกระบวนการที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

รีไซเคิลกระดาษที่ใช้แล้วให้เกิดประโยชน์

  • กระดาษที่ใช้แล้ว เช่น เอกสารหรือสมุดโน้ต สามารถนำไปใช้เป็นกระดาษจดบันทึก หรือส่งต่อให้ศูนย์รีไซเคิลแทนการทิ้งขยะ

สรุป

แม้ว่ากระดาษจะเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวันโดยไม่คิดถึงอันตรายของมัน แต่ความจริงแล้ว กระดาษบางประเภทอาจมีสารเคมีและฝุ่นที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสารฟอกขาว BPA หรือโลหะหนักที่อยู่ในหมึกพิมพ์ การสัมผัสหรือสูดดมสารเหล่านี้อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท และสมดุลของฮอร์โมน

ทางที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้กระดาษที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกระดาษที่อาจมีสารเคมีอันตราย และลดการใช้กระดาษที่ไม่จำเป็น การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและมีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณหยิบกระดาษขึ้นมา ลองสังเกตดูว่ามันปลอดภัยหรือไม่ เพราะบางทีสิ่งที่เราคิดว่าไม่เป็นอันตราย อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้มากกว่าที่คิด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. กระดาษมีสารเคมีอันตรายอะไรบ้าง?

กระดาษบางชนิดมีสารฟอกขาว (ไดออกซิน), BPA ในใบเสร็จรับเงิน และโลหะหนักจากหมึกพิมพ์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเมื่อสัมผัสหรือสูดดม

2. การสัมผัสใบเสร็จรับเงินอันตรายจริงหรือ?

ใช่ ใบเสร็จรับเงินจากกระดาษความร้อนมักมีสาร BPA หรือ BPS ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังและรบกวนฮอร์โมนได้ ควรล้างมือหลังสัมผัส

3. ฝุ่นกระดาษเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจหรือไม่?

ใช่ ฝุ่นกระดาษสามารถเข้าสู่ปอดและกระตุ้นอาการภูมิแพ้ หรือในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

4. ควรเลือกใช้กระดาษแบบไหนเพื่อความปลอดภัย?

ควรเลือกกระดาษที่ระบุว่า ‘ปราศจากคลอรีน’ (Chlorine-Free) และ ‘BPA-Free’ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ใบเสร็จรับเงินบ่อยๆ

5. วิธีลดความเสี่ยงจากสารเคมีในกระดาษมีอะไรบ้าง?

ล้างมือหลังสัมผัสกระดาษความร้อน ใช้เอกสารดิจิทัลแทน ลดการใช้กระดาษที่ผ่านการฟอกขาว และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย