เบาหวาน

5 ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม ผู้ป่วยจำนวนมากไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก ทำให้ละเลยการพบแพทย์ การดูแลที่ดีตั้งแต่ต้นจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน

หัวข้อหลักรายละเอียด
1. ลักษณะของโรคเบาหวาน– ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้- ระยะแรกไม่มีอาการชัดเจน- หากไม่ควบคุมน้ำตาล จะเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรง
2. แนวทางการดูแลและปรับตัวของผู้ป่วย– พบแพทย์สม่ำเสมอ- ตรวจระดับน้ำตาล ไขมัน ความดัน- ปรับพฤติกรรมการกิน- ยอมรับโรค และร่วมมือในการรักษา- หัวใจของการดูแล: ควบคุมน้ำตาล + ออกกำลังกาย + พบแพทย์ + ดูแลจิตใจ
3. ความรู้สึกของผู้ป่วยช่วงแรก– รู้สึกตกใจ กลัว ไม่เชื่อว่ารักษาไม่หาย- เปลี่ยนแนวทางการรักษาหลายครั้ง- บางคนใช้สมุนไพรหรือแพทย์แผนโบราณร่วมด้วย
4. ปัจจัยสำคัญต่อการควบคุมโรค– หากไม่ตรวจเลือดหรือพบแพทย์ อาการจะทรุดเร็ว- สุขภาพจิต กำลังใจ และสิ่งแวดล้อมมีผล- ได้รับการดูแลที่ดี = ใช้ชีวิตร่วมกับโรคได้- ละเลย = ควบคุมยาก เสี่ยงแทรกซ้อนมากขึ้น
เจาะเลือด

ขั้นตอนของการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน

1.การเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานสิ่งที่จำเป็นอย่างมากก็คือการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานต่างๆ โรคเบาหวานก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดด้วยกันโดยได้แก่

  • โรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งโรคเบาหวานในชนิดนี้นั้นก็จะเป็นโรคที่ร่างกายของเราไม่สามารถที่จะสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะในร่างกายของเราก็จะต้องการอินซูลินในการนำเอาน้ำตาลจากอาหารที่เรากินไปเข้ามาเป็นพลังงานให้กับร่างกาย โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดนี้ก็จะต้องได้รับการฉีดอินซูลินทุกวันเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีและสามารถที่จะอยู่ได้
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยในโรคเบาหวานชนิดนี้ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถที่จะผลิตอินซูลินได้อย่างเพียงพอนะครับ ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะนำเอาอินซูลินในร่างกายไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่หรือไม่มีประสิทธิภาพที่มากพอ โดยในผู้ป่วยชนิดที่ 2 จำเป็นที่จะต้องได้รับประทานยาเพื่อที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ แถมโรคเบาหวานชนิดนี้สามารถที่จะพบได้มากที่สุดอีกด้วย และ โรคเบาหวานในขณะที่เราตั้งท้อง โดยเบาหวานชนิดนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อเราได้ทำการคลอดลูกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานต่อได้ในอนาคต

2.การเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ ABCs

ในการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานอย่าลืมที่จะพูดคุยกับทีมแพทย์ด้วยนะครับโดยแพทย์แต่ละคนก็จะมีเทคนิคและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันออกไป แต่หลักๆ แล้วก็จะใช้วิธีในการควบคุมระดับน้ำตาลสะสม, ระดับความดันโลหิต, และ ระดับไขมันคอเลสเตอรอล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เราจะเกิดเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคแทรกซ้อนของเบาหวานโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย ในการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการของ ABCs ผู้ป่วยทุกคนก็จะต้องรู้ระดับค่าต่างๆ ด้วยนะครับเพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะมีความจำเป็นอย่างมากเลยถ้าหากเราสามารถที่จะควบคุมทุกอย่างได้จะทำให้การรักษาโรคเบาหวานของเราสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้

3.การเรียนรู้เกี่ยวกับอยู่ร่วมกับโรคเบาหวาน

มันก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติเป็นอย่างมากเลยที่เราจะรู้สึกเศร้าเสียใจ หรือโกรธ เมื่อเรารู้ตัวเองว่ากำลังป่วยเป็นโรคเบาหวาน เมื่อเราสามารถที่จะรู้ได้แล้วว่าการป่วยเป็นโรคเบาหวานเราก็จะต้องมีการดูแลสุขภาพของเราให้ดีและอยู่ในเกณฑ์ที่สม่ำเสมอให้ได้ด้วยนะครับ เพราะถ้าหากเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ก็อาจจะทำให้เราเกิดปัญหาต่างๆ ได้ โดยเฉพาะแผนการรักษาต่างๆ ดังนั้นเราก็จะต้องมีการรับมือกับโรคเบาหวานของเราด้วยนะครับ จะต้องมีการเลือกกินอาหารที่ดี และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกินต่างๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างจะสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะครับ

โดยเราก็จะต้องมีการวางแผนการรับประทานอาหารให้มีความเหมาะสมให้มากที่สุด จะต้องเลือกอาหารที่มีพลังงานที่ต่ำ ไม่ควรที่จะกินไขมันต่างๆ มากจนเกินไป เพราะการที่เรากินมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เรามีภาวะของโรคอ้วนแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นได้ การที่เราเน้นไปกินอาหารที่มีพวกเส้นใยอาหารที่สูง ก็จะช่วยลดอาการของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าเราสามารถที่จะมีการควบคุมปริมาณอาหารให้ได้ก็ย่อมจะทำให้เราห่างไกลจากโรคเบาหวาน รวมถึงการออกกำลังกายต่างๆ ก็ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะครับ โดยเราก็จะต้องมีการตั้งเป้าต่างๆ การเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงการลดน้ำหนักในการออกกำลังกายเราก็จะต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีและควรที่จะออกสัปดาห์ละ 3-5 วัน เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้มีความแข็งแรงที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

4.การเข้ารับการตรวจเป็นประจำ

เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพที่ดี โดยตามปกติแล้วคนเราส่วนใหญ่ก็ควรที่จะตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งเพื่อที่จะได้ค้นหาปัญหาและการรักษาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในระยะที่ยังเริ่มต้นอยู่อีกด้วย นอกจากนี้การดูแลรักษาตัวเองของเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอก็ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญและมีความจำเป็นที่สูงเลยนะครับเพราะถ้าร่างกายของเรามีความอ่อนแอหรือไม่แข็งแรงก็อาจจะทำให้เราป่วยเป็นโรคร้ายได้ ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพ นอกจากเราจะห่างไกลจากโรคภัยอื่นๆ แล้วสุขภาพของเราก็จะมีความสมบูรณ์และยังสามารถที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเราสามารถที่จะอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุข

5.การควบคุมอารมณ์และสภาพจิตใจ

การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวาน หลายๆ คนก็อาจจะมีอาการของความกลัวและตกใจกันอยู่เหมือนกัน แต่ขอให้ทราบกันไว้ด้วยนะครับว่าการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ถือเป็นโรคที่ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาที่ดีที่สุดก็จะเป็นการกินยาและการพบแพทย์อยู่เป็นประจำและมีความสม่ำเสมอ และที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ รวมถึงสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ถ้าหากเราสามารถที่จะรู้ได้ทันเวลาโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างจะมากพอสมควรอีกด้วย

ดังนั้น.. ถ้าหากเราสามารถที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อที่เราได้เสนอมาก็จะทำให้เราสามารถที่จะดูแลรักษาโรคเบาหวานได้อย่างเหมาะสมและมีความลงตัวเป็นอย่างมากด้วยนะครับ การเรียนรู้การควบคุมน้ำตาลก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราสามารถที่จะควบน้ำตาลได้ก็จะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานก็มีข้อห้ามกันเยอะเป็นอย่างมากเลยนะครับ โดยเฉพาะการเกิดแผล เราก็จะต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษด้วยเพราะการเกิดแผลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน  มันก็มีโอกาสที่จะทำให้แผลเกิดเรื้อรังได้ จนในที่สุดแผลก็ได้ลุกลามจนทำให้เราจะต้องตัดขาหรือตัดแขนทิ้งไปก็ได้เช่นกัน

ดังนั้นการป่วยเป็นโรคเบาหวานจริงๆ แล้วก็มีข้อห้ามที่เยอะอยู่เหมือนกันนะครับ รวมถึงการสูบบุหรี่ และการดื่มสุราต่างๆ ก็ควรที่จะลดละเลิกได้แล้วเพราะมันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เส้นเลือดของเราอุดตันจนทำให้ระบบการไหลเวียนต่างๆ ของเลือดในร่างกายลดลงไปเยอะมาก ดังนั้นการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานถ้าหากเรารู้จักดูแลตัวเองให้ดีอยู่สม่ำเสมอ มันก็สามารถที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเราอยู่ร่วมกับโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่มีทางรักษาโรคเบาหวานให้หายขาดได้ แต่เราก็สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ เอาเป็นว่าถ้าหากเราพบความผิดปกติหรือเกิดข้อสงสัยว่าเราจะป่วยเป็นโรคเบาหวานก็สามารถที่จะเข้าไปที่โรงพยาบาลและทำการตรวจเช็คได้เลยนะครับ ถ้าหากเรารู้ก่อนโอกาสที่จะควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้นั้นก็จะดีไปด้วย

หัวข้อรายละเอียด
ความรุนแรงของโรคเบาหวานเป็นโรคที่ไม่หายขาด ต้องควบคุมระดับน้ำตาลเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน
ความจำเป็นในการพบแพทย์ต้องตรวจระดับน้ำตาล ไขมัน ความดัน เป็นประจำ และให้ความร่วมมือกับแนวทางการรักษา
สภาพจิตใจผู้ป่วยต้องยอมรับว่าตนป่วย ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง
ประเภทของโรคเบาหวานเบาหวานชนิดที่ 1, 2 และขณะตั้งครรภ์ มีแนวทางดูแลต่างกัน
หลัก ABCsควบคุมระดับ A1C (น้ำตาลสะสม), ความดันโลหิต, คอเลสเตอรอล เพื่อป้องกันโรคหัวใจและแทรกซ้อน
การดูแลสุขภาพพื้นฐานเน้นกินอาหารที่มีเส้นใยต่ำพลังงาน ออกกำลังกายวันละ 30 นาที อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์
การตรวจร่างกายเป็นประจำช่วยค้นหาและรักษาโรคแทรกซ้อนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
การควบคุมอารมณ์และจิตใจลดความกลัว เครียด หมั่นดูแลตนเอง พบแพทย์สม่ำเสมอ เพื่ออยู่กับโรคได้อย่างมีคุณภาพ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงงดบุหรี่ สุรา อาหารไขมันสูง ของหวาน และระมัดระวังการเกิดแผล

สรุป

แม้โรคเบาหวานจะไม่หายขาด แต่หากผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองตามหลัก 5 ขั้นตอน ได้แก่ เรียนรู้เกี่ยวกับโรค ควบคุมสุขภาพ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร และดูแลสภาพจิตใจ ก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคได้อย่างมีความสุข ห่างไกลภาวะแทรกซ้อน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว