โรคเบาหวานถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้นะครับเพราะว่าในระยะแรกๆ ในผู้ป่วยก็จะไม่ค่อยมีอาการปวดทรมานสักเท่าไร เลยทำให้ไม่อยากมาพบแพทย์กันมากนัก อย่างที่ทราบกันนะครับว่าการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานมันก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาให้เราสามารถที่จะเห็นได้ชัด เรายังคงสามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วๆ ไป ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานนี้ทางแพทย์ก็จะต้องมีวิธีการอธิบายให้ผู้ป่วยทุกคนที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถที่จะเข้าใจถึงอาการของโรคและความเป็นมารวมถึงกระบวนการต่างๆ ตลาดจนการรักษาโรคแทรกซ้อนที่จะตามมาได้ การที่จะมีโรคแทรกซ้อนถ้าหากเราไม่มีการควบคุมปริมาณน้ำตาลเลยก็ย่อมจะทำให้โรคต่างๆ มีความรุนแรงเป็นอย่างมากและอาจจะทำให้เรามีอาการของความเจ็บปวดที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานเมื่อเริ่มรักษาก็จะต้องปรับตัวคือ จะต้องหมั่นมาพบแพทย์อยู่เป็นประจำนะครับ โดยทางแพทย์ก็จะทำการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดของเราว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือเปล่า จะต้องมีการตรวจวัดระดับไขมัน ความดัน และอื่นๆ อีกมากมาย แถมจะต้องมีความอดทนและปรับพฤติกรรมในการเลือกรับประทานอาหารต่างๆ ด้วยนะครับไม่ควรที่จะกินอาหารตามใจปากตัวเองมากจนเกินไป และอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือกการยอมรับว่าตนเป็นโรคเบาหวานและก็จะต้องให้ความร่วมมือในการรักษาและจะต้องปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอตลอดโดยผู้ที่ป่วยก็จะต้องรับทราบว่าแพทย์จะมีเป้าหมายในการรักษาอยู่ที่การควบคุมระดับน้ำตาลให้ใกล้เคียงกับคนที่ปกติ โดยในการรักษาโรคเบาหวานหลักๆ แล้วก็จะมี การควบคุมอาการ, การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ, การพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และการควบคุมอาการและจิตใจของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
สำหรับผู้ที่รู้ตัวเองว่าป่วยเป็นโรคเบาหวานในระยะแรกๆ ก็อาจจะรู้สึก กลัว ตกใจ สับสนและไม่เชื่อว่าจะรักษาไม่หาย จึงทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแนวทางการรักษาที่เยอะมาก เพราะยังคงมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะต้องรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็อย่างที่เรารู้กันนะครับการรักษาโรคเบาหวานในทุกวันนี้ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย เราก็จะต้องมีการพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ มีการรักษาด้วยแพทย์แผนโบราณเข้าร่วมด้วย โดยอาจจะใช้ยาสมุนไพรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับคนป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วไม่มีการตรวจเช็ควัดระดับน้ำตาลในเลือดหรือการพบแพทย์ต่างๆ ก็ย่อมจะทำให้อาจจะเกิดความรุนแรงและระยะของอารมณ์ที่แปรปรวนได้เลยนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพจิตของผู้ป่วย กำลังใจ และแรงสนับสนุนที่ได้รับจากคนในครอบครัว แถมสิ่งแวดล้อมต่างๆ ถ้าหากผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีก็จะทำให้การเป็นอยู่กับการป่วยเป็นโรคเบาหวานสามารถที่จะใช้ชีวิตร่วมกันได้ แต่ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีก็อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
ขั้นตอนของการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน
1.การเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานสิ่งที่จำเป็นอย่างมากก็คือการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานต่างๆ โรคเบาหวานก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดด้วยกันโดยได้แก่
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งโรคเบาหวานในชนิดนี้นั้นก็จะเป็นโรคที่ร่างกายของเราไม่สามารถที่จะสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะในร่างกายของเราก็จะต้องการอินซูลินในการนำเอาน้ำตาลจากอาหารที่เรากินไปเข้ามาเป็นพลังงานให้กับร่างกาย โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดนี้ก็จะต้องได้รับการฉีดอินซูลินทุกวันเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีและสามารถที่จะอยู่ได้
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยในโรคเบาหวานชนิดนี้ร่างกายของเราก็จะไม่สามารถที่จะผลิตอินซูลินได้อย่างเพียงพอนะครับ ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะนำเอาอินซูลินในร่างกายไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่หรือไม่มีประสิทธิภาพที่มากพอ โดยในผู้ป่วยชนิดที่ 2 จำเป็นที่จะต้องได้รับประทานยาเพื่อที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ แถมโรคเบาหวานชนิดนี้สามารถที่จะพบได้มากที่สุดอีกด้วย และ โรคเบาหวานในขณะที่เราตั้งท้อง โดยเบาหวานชนิดนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อเราได้ทำการคลอดลูกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานต่อได้ในอนาคต
2.การเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ ABCs
ในการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานอย่าลืมที่จะพูดคุยกับทีมแพทย์ด้วยนะครับโดยแพทย์แต่ละคนก็จะมีเทคนิคและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันออกไป แต่หลักๆ แล้วก็จะใช้วิธีในการควบคุมระดับน้ำตาลสะสม, ระดับความดันโลหิต, และ ระดับไขมันคอเลสเตอรอล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เราจะเกิดเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคแทรกซ้อนของเบาหวานโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย ในการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการของ ABCs ผู้ป่วยทุกคนก็จะต้องรู้ระดับค่าต่างๆ ด้วยนะครับเพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะมีความจำเป็นอย่างมากเลยถ้าหากเราสามารถที่จะควบคุมทุกอย่างได้จะทำให้การรักษาโรคเบาหวานของเราสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้
3.การเรียนรู้เกี่ยวกับอยู่ร่วมกับโรคเบาหวาน
มันก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติเป็นอย่างมากเลยที่เราจะรู้สึกเศร้าเสียใจ หรือโกรธ เมื่อเรารู้ตัวเองว่ากำลังป่วยเป็นโรคเบาหวาน เมื่อเราสามารถที่จะรู้ได้แล้วว่าการป่วยเป็นโรคเบาหวานเราก็จะต้องมีการดูแลสุขภาพของเราให้ดีและอยู่ในเกณฑ์ที่สม่ำเสมอให้ได้ด้วยนะครับ เพราะถ้าหากเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ก็อาจจะทำให้เราเกิดปัญหาต่างๆ ได้ โดยเฉพาะแผนการรักษาต่างๆ ดังนั้นเราก็จะต้องมีการรับมือกับโรคเบาหวานของเราด้วยนะครับ จะต้องมีการเลือกกินอาหารที่ดี และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกินต่างๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างจะสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะครับ
โดยเราก็จะต้องมีการวางแผนการรับประทานอาหารให้มีความเหมาะสมให้มากที่สุด จะต้องเลือกอาหารที่มีพลังงานที่ต่ำ ไม่ควรที่จะกินไขมันต่างๆ มากจนเกินไป เพราะการที่เรากินมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เรามีภาวะของโรคอ้วนแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นได้ การที่เราเน้นไปกินอาหารที่มีพวกเส้นใยอาหารที่สูง ก็จะช่วยลดอาการของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าเราสามารถที่จะมีการควบคุมปริมาณอาหารให้ได้ก็ย่อมจะทำให้เราห่างไกลจากโรคเบาหวาน รวมถึงการออกกำลังกายต่างๆ ก็ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะครับ โดยเราก็จะต้องมีการตั้งเป้าต่างๆ การเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงการลดน้ำหนักในการออกกำลังกายเราก็จะต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีและควรที่จะออกสัปดาห์ละ 3-5 วัน เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้มีความแข็งแรงที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
4.การเข้ารับการตรวจเป็นประจำ
เพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพที่ดี โดยตามปกติแล้วคนเราส่วนใหญ่ก็ควรที่จะตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งเพื่อที่จะได้ค้นหาปัญหาและการรักษาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในระยะที่ยังเริ่มต้นอยู่อีกด้วย นอกจากนี้การดูแลรักษาตัวเองของเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอก็ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญและมีความจำเป็นที่สูงเลยนะครับเพราะถ้าร่างกายของเรามีความอ่อนแอหรือไม่แข็งแรงก็อาจจะทำให้เราป่วยเป็นโรคร้ายได้ ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพ นอกจากเราจะห่างไกลจากโรคภัยอื่นๆ แล้วสุขภาพของเราก็จะมีความสมบูรณ์และยังสามารถที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเราสามารถที่จะอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุข
5.การควบคุมอารมณ์และสภาพจิตใจ
การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวาน หลายๆ คนก็อาจจะมีอาการของความกลัวและตกใจกันอยู่เหมือนกัน แต่ขอให้ทราบกันไว้ด้วยนะครับว่าการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานก็ถือเป็นโรคที่ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาที่ดีที่สุดก็จะเป็นการกินยาและการพบแพทย์อยู่เป็นประจำและมีความสม่ำเสมอ และที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ รวมถึงสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเบาหวาน ถ้าหากเราสามารถที่จะรู้ได้ทันเวลาโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างจะมากพอสมควรอีกด้วย
ดังนั้น.. ถ้าหากเราสามารถที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อที่เราได้เสนอมาก็จะทำให้เราสามารถที่จะดูแลรักษาโรคเบาหวานได้อย่างเหมาะสมและมีความลงตัวเป็นอย่างมากด้วยนะครับ การเรียนรู้การควบคุมน้ำตาลก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราสามารถที่จะควบน้ำตาลได้ก็จะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานก็มีข้อห้ามกันเยอะเป็นอย่างมากเลยนะครับ โดยเฉพาะการเกิดแผล เราก็จะต้องดูแลรักษากันเป็นพิเศษด้วยเพราะการเกิดแผลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มันก็มีโอกาสที่จะทำให้แผลเกิดเรื้อรังได้ จนในที่สุดแผลก็ได้ลุกลามจนทำให้เราจะต้องตัดขาหรือตัดแขนทิ้งไปก็ได้เช่นกัน
ดังนั้นการป่วยเป็นโรคเบาหวานจริงๆ แล้วก็มีข้อห้ามที่เยอะอยู่เหมือนกันนะครับ รวมถึงการสูบบุหรี่ และการดื่มสุราต่างๆ ก็ควรที่จะลดละเลิกได้แล้วเพราะมันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เส้นเลือดของเราอุดตันจนทำให้ระบบการไหลเวียนต่างๆ ของเลือดในร่างกายลดลงไปเยอะมาก ดังนั้นการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานถ้าหากเรารู้จักดูแลตัวเองให้ดีอยู่สม่ำเสมอ มันก็สามารถที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเราอยู่ร่วมกับโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่มีทางรักษาโรคเบาหวานให้หายขาดได้ แต่เราก็สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติ เอาเป็นว่าถ้าหากเราพบความผิดปกติหรือเกิดข้อสงสัยว่าเราจะป่วยเป็นโรคเบาหวานก็สามารถที่จะเข้าไปที่โรงพยาบาลและทำการตรวจเช็คได้เลยนะครับ ถ้าหากเรารู้ก่อนโอกาสที่จะควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติได้นั้นก็จะดีไปด้วย