น้ำตาลในเลือดบอกอะไรในตัวคุณ

เจาะเลือด

น้ำตาลในเลือดบอกอะไรในตัวคุณ

      การที่เราตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับเราทุกคนในการดูแลรักษาสุขภาพการที่เรามีการตรวจเช็คร่างกายของเรานั้นก็เพื่อเป็นการตรวจสิ่งผิดปกติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความดัน ไขมัน หัวใจ รวมถึงระดับน้ำตาลในเลือดนั้น ซึ่งถ้าหากเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงผิดปกตินั้น ก็อาจจะบ่งชี้ได้ว่าเรากำลังอาจจะเข้าสู่การป่วยเป็นโรคเบาหวานได้นั่นเอง โดยโรคนี้นั้นก็เป็นโรคที่ร่างกายนั้นมีความผิดปกติ ในกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน เมื่อน้ำตาลที่อยู่ในเลือดไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้นั้นมันก็ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรามีความสูงผิดปกติได้นั่นเอง โดยจริงๆ แล้วนั้นระดับน้ำตาลในเลือดถ้าหากมีความสูงมากกว่า 120 มก./ดล ไปนั้นก็อาจจะทำให้เราเข้าสู่การป่วยของโรคเบาหวานได้อีกด้วย

      ในประเทศไทยนั้นในทุกวันนี้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็มีกันเยอะเป็นอย่างมากเลยนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ป่วยมากขึ้นขนาดไหนก็ตามแต่ แนวทางการรักษาของโรคเบาหวานในทุกวันนี้นั้นก็ยังไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้นั่นเอง การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็ย่อมจะทำให้เราเกิดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้เหมือนกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งอาการต่างๆ ของโรคแทรกซ้อนดังกล่าวก็ถือเป็นโรคที่ได้คร่าชีวิตคนไทยมาแล้วอย่างมากมายนั่นเอง อย่างไรก็ตามนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานบางคนก็อาจจะไม่มีอาการเกิดขึ้นได้ ถือได้ว่าโรคเบาหวานนั้นเป็นโรคภัยเงียบที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนนั่นเอง ตามปกติแล้วนั้นอาการของโรคเบาหวานที่เราสามารถพบได้บอยนั้นก็จะเป็น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำมาก หิวข้าวมากกว่าปกติ มีอาการของน้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการอ่อนเพลียต่างๆ ไม่มีสมาธิในการทำอะไรเลย มีอาการชาปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ตามัว ติดเชื้อบ่อย อ้วกบ่อย และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะสามารถที่จะสังเกตอาการเหล่านี้ได้จากเมื่อเรามีระดับน้ำตาลมากกว่า 200 มก./ดล. นั่นเอง

       ดังนั้นถ้าหากเรารู้ตัวว่าตัวเองจะป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็ควรที่จะต้องรีบเร่งทำการรักษากันอย่างเร่งด่วนเลยนะครับ เพราะการเกิดของโรคเบาหวานหรือมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงนั้นมันก็จะต้องพิจารณาอะไรอีกหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น การกินยา การใช้ยา การควบคุมโรคเบาหวานนั้นจริงๆ แล้วมันก็มีมากมายหลากหลายวิธีด้วยกัน การใช้ยาก็เหมือนกันนะครับในทุกวันนี้ยาโบราณหรือยารักษาแผนปัจจุบันนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนที่ทำการรักษานั้นก็จะต้องปรับวิธีการรักษาให้เหมาะสมด้วยนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจ่ายยาของแพทย์ด้วยว่าจะให้เรากินยาแบบไหน และกี่เวลาเพราะการรักษาของโรคนี้นั้นในแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนั่นเอง แต่ในที่สุดทางแพทย์นั้นก็จะเลือกวิธีการรักษากันอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดผลลัพธ์และมีประสิทธิภาพที่ดีนั่นเอง

      การที่เรามีการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดนั้นหรือระดับกลูโคสในเส้นเลือด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากของการดูแลรักษาโรคเบาหวานเลยก็ว่าได้นะครับ ซึ่งการที่เราตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดนั้มันก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่เหมือนกันเพราะถ้าหากว่าเรามีระดับน้ำตาลที่เยอะหรือสูงนั้นมันก็จะทำให้เราสามารถที่จะรักษาได้อย่างทันเวลานั่นเอง หลายๆ คนก็ยังคงไม่รู้นะครับว่าทำไมถึงจะต้องมีความจำเป็นในการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอยู่บ่อยๆ เพราะการที่เราตรวจระดับน้ำตาลในเลือดนั้นมันก็จะสะท้อนให้เห็นว่าการควบคุมระดับน้ำตาลของเราหรือระดับเบาหวานของเรานั้นอยู่ในเกณฑ์ไหนอยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมหรือเปล่า เพราะมันจะช่วยทำให้เรานั้นสามารถที่จะดูแลรักษาโรคเบาหวานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะการที่เราตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เป็นประจำนั้น ก็จะทำให้เรารู้ว่าระดับน้ำตาลของเราอยู่ในระดับไหน อย่างน้อยถ้าเราสามารถที่จะรู้ตัวเลขได้นั้นก็ย่อมจะทำให้การรักษาของโรคเบาหวานนั้นสามารถที่จะเป็นไปได้ดีและมีประสิทธิภาพนั่นเอง การตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดนั้นจริงๆ แล้วตามทั่วไปก็มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน

  1. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง ในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองนั้น ก็จะใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ โดยจะเรานั้นก็จะสามารถที่จะเจาะเลือดที่บริเวณปลายนิ้วมือ โดยเครื่องตรวจนี้นั้นก็สามารถที่จะหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปหรือร้านอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ วิธีการใช้เราก็จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาเครื่องมือก่อนการใช้งานทุกครั้ง เมื่อเราสามารถที่จะเรียนรู้วิธีการใช้งานได้แล้วนั้น เราก็จะสามารถที่จะตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็ฯอย่างดีนั่นเอง โดยเราสามารถที่จะนำผลการตวจนั้นนำมาจดบันทึกและให้แพทย์ดูได้อีกด้วย
  2. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบสะสม ในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบสะสมนั้นก็จะช่วยบอกคุณและแพทย์ที่ดูแลรักษานั้นว่าระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้นของเราเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้แพทย์นั้นสามารถที่จะตัดสินใจเลือกชนิดและปริมาณของยาที่ใช้ในการรักษาได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบสะสมนั้นเราก็จะต้องตรวจเช็คอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งด้วยกัน ซึ่งถ้าหากการตรวจของเราพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั้นเราก็จะต้องมีการควบคุมอาการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น แถมยังจะต้องไปพบแพทย์กันบ่อยครั้งอีกด้วยนั่นเอง